1.1 ไทม์ไทรอัล(time-trials)
- ไทม์ ไทรอัล บุคคล (มีการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์): เป็นการแข่งขันกันด้วยระยะทางประมาณ 40-50 กม (ในการชิงแชมป์โลกและกีฬาโอลิมปิกเกมส์) นักขี่จักรยานจะออกตัวเป็นรายบุคคลในช่วงเวลาห่างกันที่สม่ำเสมอ (ประมาณ 1-2 นาที) ผู้แข่งขันที่ขี่จนจบเวลาและเร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
- ทีม ไทม์ ไทรอัล : หลักการพื้นฐานจะเหมือนกันกับ ไทม์ไทรอัล บุคคล แต่รายการนี้จะแข่งขันเป็นทีมที่มีานักกีฬาอย่างต่ำที่สุด 2 คน และมากที่สุด 10 คน ทีมไทม์ไทรอัล จะอยู่ในโปรแกรมของการชิงแชมป์โลกถนนของยูซีไอ จากปี 2012 (มีประมาณ 5-6 คน / ทีม) ทีมยูซีไอทุกทีม จะสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ (ทีมอาชีพของยูซีไอ ทีมทวีปของยูซีไอ ทีมหญิงของยูซีไอ)
1.2 ไลน์เรส(line races)
2. จักรยานลู่(Track cycling) เป็นกีฬาจักรยานที่ต้องใช้ความแข็งแกร่ง ต้องมีความเร็ว และใช้เทคนิคหลายหลากรูปแบบ การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรก จัดขึ้นในปี 2436 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การแข่งขันมีสองประเภทคือ แข่งความเร็ว และ แข่งความทนทาน
- แข่งความเร็ว(Speed races) มีรายการแข่งขันต่างๆดังนี้คือ ไทม์ไทรอัล สปรินท์ ทีมสปรินท์ และ คีริน
- แข่งความทนทาน มีรายการแข่งขันดังนี้คือ อินดิวิดวลเปอร์ซุท ทีมเปอร์ซูท พอยท์เรส เมดิสัน และสแครท
มีสนามเวลโลโดรมทั่วโลกประมาณ 800 แห่ง ในประเทศไทยมีเวลโลโดรม 4 แห่ง ที่ กรุงเทพ ฯ , สุพรรณบุรี, เชียงใหม่ และนครราชสีมา ซึ่งเป็นสนามคอนกรีตนอกอาคาร สนามเวลโลโดรมที่ใช้ในการแข่งขันระดับนานาชาติในปัจจุบันนิยมสร้างเป็นสนามในอาคารลู่ทำด้วยไม้ ขนาดความยาวโดยรอบ 250 เมตร
3. จักรยานไซโครครอส(Cyclo-cross) เริ่มมีการเล่นในปี พ.ศ.2443 แต่มีการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกปี พ.ศ. 2493 เป็นชนิดที่เล่นยาก นักกีฬาต้องใช้พละกำลังมาก และต้องสะสมประสบการณ์จากการฝึก
4. จักรยานเสือภูเขา(Mountain bike) เป็นกีฬาจักรยานที่ให้ความรู้สึกถึงความอิสระ สนุกสนาน จักรยานเสือภูเขาได้ถือกำเนิดเมื่อปี พ.ศ. 2513 เมื่อชาวอเมริกัน 3 คนได้ประดิษฐ์จักรยานชนิดใหม่เพื่อใช้ขี่นอกทาง (ออฟโรด) หลังจากนั้นอีก 10 ปี ได้มีการแข่งขันเป็นครั้งแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา การแข่งขันมี 3 ประเภทคือ
- ครอสคันทรี(Cross-country) เป็นการแข่งขันในสนามวงรอบ(circuit) ผ่านทุ่งโล่ง ป่าละเมาะ หรือสวนสาธารณะในเมือง
- ดาวน์ฮิล(Downhill) เป็นการขี่ลงจากภูเขา ผู้ทำเวลาได้น้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
- 4 –cross(4X) เป็นการแข่งขันดาวน์ฮิลแบบแพ้คัดออก
5. จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์(BMX or Bicross) บีเอ็มเอ็กซ์ หรือจัรยานวิบาก เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2503 ในขณะการแข่งขันมอเตอร์ไซด์วิบากกำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่ง เด็กๆเยาวชน ที่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อมอเตอร์ไซด์วิบากมาฝึก จึงใช้จักรยานมาฝึกซ้อมในสนามดินที่สร้างกันเอง และจัดการแข่งขันเหมือนกับมอตอร์ไซด์วิบาก การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2525 เป็นกีฬาที่ดึงดูดวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี ในปี พ.ศ.2550 จะมีการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทย
สนามแข่งขันมีลักษณะวนไปมา ระยะทาง 300 – 350 เมตร ซึ่งทางแข่งจะมีอุปสรรคเป็นเนินขนาดต่าง และโค้งเลี้ยว เรียงรายไปตามเส้นทาง นักแข่งจะต้องใช้ความเร็ว และเทคนิคการยกรถข้ามเนิน เพื่อให้ไปได้เร็วกว่าคู่แข่ง จะใช้เวลาในการแข่งต่อรอบประมาณ 30 – 40 วินาที ผู้ที่เร็วที่สุดคือผู้ชนะ
6. จักรยานไทรอัล(Trails) การแข่งขันชนิดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกมีขึ้นในปี พ.ศ. 2527 นักแข่งจะต้องขี่จักรยานข้ามเครื่องกีดขวาง โดยห้ามเอาเท้าลงสัมผัสพื้น นักแข่งจะต้องแน่วแน่และมีสมาธิสูง
7. จักรยานในร่ม(Indoor cycling) เป็นการแข่งขันที่มีลีลางดงาม ต้องมีทักษะความคล่องแคล่ว ซึ่งมีการแข่งขันสองประเภทคือ
- จักรยานลีลา(Artistic cycling) รถจักรยานแข่งคันหนึ่งจะมีนักแข่ง 2 คน ขี่แสดงท่าฟรีสไตล์และท่าบังคับ โดยมีเพลงประกอบ ในช่วงเวลา 6 นาที นักแข่งจะต้องมีทักษะและการทรงตัวที่ดี กรรมการจะให้คะแนนมากน้อยขึ้นอยู่กับความยากง่ายของท่าที่ขี่ คู่ที่ได้คะแนนสูงสุดคือผู้ชนะ
- จักรยานไซเคิลบอล(Cycle – ball)เป็นประเภทการแข่งขันเฉพาะผู้ชาย คล้ายกับการเล่นฟุตบอล แต่ละทีมจะมีผู้เล่น 2 คน ขี่จักรยานคนละคัน ซึ่งเป็นได้ทั้งผู้เล่นและผู้รักษาประตู การแข่งขันแบ่งเป็นสองช่วง ๆ ละ 7 นาที ผู้เล่นจะต้องใช้ล้อจักรยานทำประตูขณะที่ขี่จักรยาน ทีมทีทำประตูได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ
8. Para-cycling การแข่งขันจักรยานสำหรับผู้พิการ ใช้มือในการปั่นแทนขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น